ตารางธาตุ
(Periodic Table)
|
วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2557
วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557
ตารางธาตุ
ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบธาตุแล้วเป็นจำนวนมาก ธาตุเหล่านั้นอาจมีสมบัติบางประการคล้ายกันแต่ก็มีสมบัติบางประการที่แตกต่างกัน จึงยากที่จะจดจำสมบัติต่างๆ ของแต่ละธาตุได้ทั้งหมด นักวิทยาศาสตร์จึงหากฎเกณฑ์ในการจัดธาตุที่มีสมบัติคล้ายกันให้อยู่ในกลุ่มเดียวกันเพื่อง่ายต่อการศึกษาวิวัฒนาการของการสร้างตารางธาตุ
โยฮัน เดอเบอไรเนอร์ ชาวเยอรมัน จัดกลุ่มธาตุเป็นกลุ่ม ๆละ 3 ธาตุ ตามสมบัติที่คล้ายคลึงกัน เรียกว่า ชุดสาม (Triad ) พบว่าธาตุตรงกลางในชุด จะมีมวลอะตอมเป็นค่าเฉลี่ยของอีกสองธาตุ หลักการดังกล่าวไม่เป็นที่ยอมรับ เนื่องจากใช้อธิบายธาตุกลุ่มอื่นไม่ได้ จอห์น นิวแลนด์ ชาวอังกฤษ เสนอแนวคิดว่า ถ้าเรียงธาตุตามมวลอะตอมจากน้อยไปหามาก จะพบว่า ธาตุลำดับที่ 8 ในแต่ละกลุ่ม จะมีสมบัติคล้ายคลึงกันเสมอ แต่แนวคิดดังกล่าวอธิบายได้ดีสำหรับธาตุ 20 ธาตุแรกเท่านั้น ยูลิอุส โลทาร์ ไมเออร์ ชาวเยอรมัน และ ดิมิทรี อิวา - โนวิช เมนเดเลฟ ชาวรัสเซีย เสนอกฎพีริออดิก (Periodic Law) กล่าวว่า "ถ้าเรียงธาตุตามมวลอะตอมจากน้อยไปหามาก จะพบว่าธาตุจะมีสมบัติคล้ายกันเป็นช่วงๆ" ตารางธาตุยุคแรกจึงเรียกว่า ตารางพีริออดิกของเมนเดเลฟ
วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
สาขาย่อยของวิชาเคมี
วิชาเคมีมักแบ่งออกเป็นสาขาย่อยหลัก ๆ ได้หลายสาขา นอกจากนี้ยังมีสาขาทางเคมีที่มีลักษณะที่ข้ามขอบเขตการแบ่งสาขา และบางสาขาก็เป็นสาขาที่เฉพาะทางมาก
- เคมีวิเคราะห์
- เคมีวิเคราะห์ (Analytical Chemistry) คือการวิเคราะห์ตัวอย่างสาร เพื่อศึกษาส่วนประกอบทางเคมีและโครงสร้าง.
- ชีวเคมี
- ชีวเคมี(Biochemistry) คือการศึกษาสารเคมี ปฏิกิริยาเคมี และ ปฏิสัมพันธ์ทางเคมีที่เกิดขึ้นในสิ่งมีชีวิต
- เคมีอนินทรีย์
- เคมีอนินทรีย์(Inorganic Chemistry) คือการศึกษาคุณสมบัติและปฏิกิริยาของสารประกอบอนินทรีย์ อย่างไรก็ตามการแบ่งแยกระหว่างสาขาทางอินทรีย์และสาขาอนินทรีย์นั้น ไม่ชัดเจน และยังมีการเหลื่อมของขอบเขตการศึกษาอยู่มาก เช่นในสาขา organometallic chemistry
- เคมีอินทรีย์
- เคมีอินทรีย์(Organic Chemistry) คือการศึกษาโครงสร้าง, สมบัติ, ส่วนประกอบ และปฏิกิริยาเคมี ของสารประกอบอินทรีย์
- เคมีฟิสิกส์
- เคมีเชิงฟิสิกส์(Physical Chemistry) คือการศึกษารากฐานทางฟิสิกส์ของระบบและกระบวนการทางเคมี ตัวอย่างที่เห็นก็เช่น นักเคมีเชิงฟิสิกส์มักสนใจการอธิบายการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในเชิงของพลังงาน
เคมี คือศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับสสาร ความสามารถของสสาร การแปรรูปของสสาร และการปฏิสัมพันธ์กับพลังงานและสสารด้วยกันเอง เนื่องจากความหลากหลายของสสาร ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของอะตอม นักเคมีจึงมักศึกษาโครงสร้าง คุณสมบัติ และการจัดเรียงอะตอมเพื่อรวมตัวกันเป็นโมเลกุล เช่น แก๊สโลหะ หรือผลึกคริสตัล เคมีปัจจุบันได้ระบุว่าโครงสร้างของสสารในระดับอะตอมนั้นถือเป็นตัวกำหนดธรรมชาติของสสารทุกชนิด
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)